วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สุวรรณภูมิ...สวรรค์ที่คนไทยภาคภูมิใจ...


0000ก่อนสองทุ่ม รอเช็คอินอีกครั้งทุกคนจึงมีอิสระเต็มที่ แลคเงินสกุลเยนคนละหมื่นสองหมื่นเอาไว้กันตายเวลาเดินชนชามก๊วยเตี๋ยว แต่ก็มี สจ.ใจใหญ่กระเป๋าหนักหลายคนตั้งใจจ่ายเต็มที่ มีเท่าไรแลกหมดกลับมาค่อยแลกกลับคืน

0000สจ.กล(สากล ไกษร) สจ.ทนายหนุ่มจากธาตุพนม ซึ่งเดินทางมากรุงเทพก่อนแล้วตามประสาคนหนุ่มและแลกเงินญี่ปุ่นไว้แล้วเกือบแสนคุยให้คณะฟังว่า "เงินญี่ปุ่น 100เยนประมาณ 32 บาทไทย ผมแลกเมื่อวานนี้ 33 บาท กว่าแต่ธนาคารแห่งประเทศไทยนะ ในสนามบินคง 32 กว่านี่แหละไผซิแลคกะได้เด้อ 32 บาท" "เบิ่งดู๋ท่านนายกยังบ่ไปฮอดไสมันเอากำไรหมู่แล้ว"สจ.กอ(ทันใจ ณ รังศรี)ตระโกนขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะกันครึกครื้น


0000สองทุ่มตามนัดหมาย ส่วนใหญ่ก็รวมตัวกันอยู่แล้วเพราะหมดภาระกิจและกลัวหลงเพื่อน เป็นบ้านนอกเข้ากรุง ที่ชั้นสี่ สายการบิน JAPAN AIRLINE แถว R เจ้าหน้าที่เวิลดิ์ สปิริต ออนทัวร์ มาต้อนรับคณะแนะนำอะไรเพิ่มเติมเพื่อเก็บกระเป๋าเข้าใต้ท้องเครื่องบิน เช็คอินโชว์ตัวและหนังสือเดินทางคู่กับกระเป๋าเซนต์เอกสารเข้าออกประเทศ... นับต่อนี้ไปจนกลับมาที่เดิม ทั้ง 13 ชีวิตฝากไว้กับคนชื่อ สุพจน์ กนกเลิศวงศ์ ผู้เป็นไกด์พาเข้าออกญี่ปุ่นในครั้งนี้...
0000ผ่านการตรวจเอกสารทุกคนเข้าไปเดินดูของปลอดภาษีกันภายในสนามบิน...ทุกคนมีประสบการณ์ในการผ่านเข้าออกสนามบินนานาชาติแห่งนี้มาแล้ว...เพราะเคยเดินทางไปต่างประเทศกันมาแล้ว...เพียงแต่รู้ว่าขึ้นเครื่องgateไหนเวลาเท่าไรต่างรู้หน้าที่ดี...บ้างจับกันเป็นคู่...บ้างเดินเดี่ยว...แต่กลุ่มใหญ่สายตาซนเดินดูฝรั่งแต่งตัวโป้...แล้ววิจารณ์กันให้สนุกปากเพื่อฆ่าเวลา...เห็นหญิงไทยตัวดำปี๋ร่างเล็กนางหนึ่งจูงแขนฝรั่งยักแย้ยักยัน...สจ.สฤษดิ์หันมาหากลุ่มเพื่อนแล้วชี้ไปที่คนทั้งสอง"สินค้านำเข้า""แม่นยังสินค้านำเข้า"สจ.สงวนสงสัย"อ๋อผู้หญิงไทยนำฝรั่งเข้ามา...ถ้าไม่มีผู้หญิงพวกนี้...จ้างฝรั่งมันก็ไม่เข้ามา"
0000สจ.กูด วัฒนชัย จากบ้านแพงถามเพื่อนว่า"เป็นหยังฝรั่งจังมักคนตัวน้อยตัวดำ" สจ.กอ ทันใจว่า"ดำดีดำดูด ของน้อยมันคัก""บ่แม่น"สำเหนียงย้อบ้านแพงสวนคืน"ฝรั่งมันมักคนดำคนขี้ร่ายเพราะมันสบายใจบ่ต้องมีไผ่มาคอยแย่งเมียมัน"
00000สี่ทุ่มครึ่ง 12 ชีวิต บวก 1...จากชายแดนริมฝั่งโขงประเทศไทย ก็ทะยานข้ามน้ำข้ามทะเลสู่แดนปลาดิบ...โดยสายการบิน JAPAN AIRLINE เที่ยวบินที่ JL.718 สนามบินนานาชาติ นาริตะ...คือเป้าหมายตอนหกโมงเช้าของวันพรุ่งนี้...
00000นั่ง PB.AIR. จากนครพนมตกหลุมอากาศหน้ามรสุมว่าหวาดเสียวแล้ว เพราะสังเกตเห็นพวกเรานั่งนิ่งไม่พูดคุยเหมือนขึ้นเครื่องใหม่ๆ...มาเจอ JAL.ของญี่ปุ่นที่เป็นเครื่องใหญ่เจอหลุมอากาศยิ่งสั่นสะท้านเป็นสองเท่าทุกคนนั่งหลับตาเอนหลังพิงเบาะคงยังไม่หลับเพราะทีวีตัวเล็กหลังเบาะนั่งยังเปิดไว้...เรายังหลงภาวนา...มือกำหลวงพ่อเจ้าคุณจันโทปมาจารย์ที่ห้อยคอไว้ตลอดเวลาว่า....ช่วยลูกด้วยครับท่านเจ้าคุณ...
เคยอ่านเจอแต่ในหนังสือว่าเครื่องตกหลุมอากาศเป็นเช่นไร...นึกบรรยากาศและอาการไม่ออก...จนได้มาพบเจอกับตัวว่านี่แหละคือของจริง...ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเมารถเรือจนคลื่นเหียรอาเจียร...นอกจากอวกบ้างตอนเมากัญชา...หรือเหล้า...อายุสามขวบนั่งเรือกระแซงแล้ว สี่ขวบว่ายน้ำเป็น...ภูมิต้านทานมีมาแต่กำเหนิด แต่...อาการที่มันเกิดขึ้นกับเราวันนี้มันคืออะไรกันแน่ครับ...กินเหล้าหมดสามขวดก็ไม่ปานไม่ได้กินข้าวมาแล้วสามวันก็ไม่ใช่....อยากอวกวิงเวียนแต่อวกไม่ออก...ปวดท้องขี้แต่คงขี้ไม่ออกเพราะอาการมันบอกอย่างนั้น...กลืนน้ำลายฝืดไม่ยอมลงคอมันแน่นไปหมดทั้งหน้าอก...ช่องท้อง...เหงื่อซึมเต็มหลัง...หรี่ตามองเพื่อนรอบข้างตัวแข็งนิ่งสนิทเหมือนมัมมี่...เครื่องบินกระทบคลื่นเหมือนนั่งรถมอเตอร์ไซค์ตัดคลื่นลูกรังถนนที่ไม่เคยปรับเกรด..."ขณะนี้อากาศแปรปวนขอให้ทุกคนรัดเข็มขัดและนั่งอยู่กับที่."เสียงกัปตันประกาศเป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่ทราบได้เพราะมีทั้งภาษาญี่ปุ่น...อังกฤษ...ไทย...สลับกันไปมา....
0000กลิ่นข้าวต้มโชยเข้าจมูก...และมีเสียงเรียกเบาๆข้างหู..."อาหารเช้าคะ กาแฟโอวัลติน...หรืออย่างอื่นก็ได้นะคะ" เราหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่...ไม่อาจทราบได้เหลือบดูนาฬิกาบอกเวลาที่ติดอยู่ข้างหน้า...ตีห้าสิบสองนาที มองออกนอกหน้าต่างยังมืดสนิท...เหลือเวลาอีกประมาณชั่วโมงเศษคณะเราก็จะหย่อนเท้าลงสัมผัสแผ่นดินภูเขาไฟที่เรียกว่าญี่ปุ่นแล้ว...

วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2551

28 กันยายน - 1 ตุลาคม 2551 ไปญี่ปุ่นครับ....

0000######หลังจากที่มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว...นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ก็ขอเปิดประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม เพื่อเลือก...ประธานสภา...รองประธานสภา..และเพื่อให้ นายก ได้แถลงนโยบายต่อสภาก่อนการเข้าปฏิบัติหน้าที่ มติที่ประชุมสภาเลือกประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ได้...ว่าที่ รต.ถีระวัฒน์ จำปาไชยศรี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเขตอำเภอท่าอุเทน(ส.อบจ.)เป็นประธานสภาได้รองประธานคนที่ 1 นายสฤษดิ์ โมธรรม ส.อบจ.เขตอำเภอนาทม นายสุขุม ไชยภักดี ส.อบจ.เขตอำเภอเรณูนคร รองประธานคนที่ 2

0000000การประชุมนัดต่อๆมาสภาก็ได้นำเอาปัญญหาในหลายเรื่องเข้าประชุม...มีการตั้งคณะกรรมการชุดต่างๆในการทำหน้าที่ ตามกรอบอำนาจและภาระที่ได้หาเสียงไว้กับพี่น้องประชาชน โดยสภาเลือกันเองตามความเหมาะสม...ความสนใจของแต่ละคนซึ่งเรียกว่าคณะกรรมการสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ตามประกาศลงวันที่ 6 มิถุนายน 2551 ให้แต่ละคณะเลือกประธานและเลขานุการกันเอง โดยกำหนดภาระงานไว้ 8 คณะ มีคณะที่ 8 คือคณะกรรมการส่งเสริมปลูกพืชพลังงานทดแทนน้ำมัน....มี


..................1.นายสมชอบ นิติพจน์ ประธานคณะกรรมการ
..................2.เกษตรจังหวัดนครพนม กรรมการ
..................3.นายภักดี สุขรี กรรมการ
..................4.นายวัฒนชัย คำมุข กรรมการ
..................5.นายทันใจ ณ รังศรี กรรมการ
..................6.นายเกษม วงค์ตาหล้า กรรมการ
..................7.นายสากล ไกรษร กรรมการ
..................8.นายสงวน คังกัน กรรมการ/เลขานุการ


0000คณะกรรมการชุดนี้ได้ประชุม ตกลงกันว่าต้องไปศึกษาดูงานโรงงานผลิตไบโอดีเซลที่ประเทศญี่ปุ่นโดยประสานงบประมาณ ในข้อบัญญัติเพิ่มเติมฉบับที่ 2 ของปีงบประมาณ 2551 ติดต่อทัวร์ขออนุญาตเดินทางศึกษาดูงานจากผู้ว่าราชการจังหวัด เสร็จสรรพผู้ว่าอนุมัติให้เดินทางในวันที่ 28 กันยายน -1 ตุลาคม 2551 ให้ เวิลด์ สปิริต ออนทัวร์ จำกัด เป็นธุระนำพาคณะทั้งหมด 13ชีวิต สู่แดนปลาดิบ....

0000ทางชีวิตของคนเราย่อมพลิกผันได้ทุกเวลานาที หากจังหวะและโอกาสนั้นมาถึง แต่กว่าจะมาถึงวันนั้นบางทีก็รอคอยด้วยเวลาที่ยาวนาน...แล้วคลืนชีวิตของเรา...ครูบ้านนอกจากบ้านศรีเวินชัย...ก็ถูกซัดใกล้ประเทศที่เจิญด้วยวัตถุ...ที่หลายคนไฝ่ฝันที่จะไปเหยียบดินแดนแห่งภูเขาไฟ...ดินแดนอาทิตย์อุทัย...หรือเมืองกิโมโน...ผู้พ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2...

0000ศุกร์ที่ 26 กันยายน 2551 หลังประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ประจำปี 2551 จบลง ดร.สมชอบ นิติพจน์ ผู้เป็นหัวขบวนในการนำคณะเหิรฟ้าสู่ดินแดนอารยะธรรมล้ำสมัยกว่าใครในภูมิภาคนี้...นัดหมาย...ผู้ร่วมเดินทาง...แนะนำขั้นตอนการเดินทางแจกเอกสาร...เตรียมตัวเตรียมใจเรียกน้ำย่อย...เพื่อกระตุ้นต่อมเดินทางให้ตื่นตัว...ถือเป็นการอบรมก่อนการเดินทาง...ในฐานะที่เป็นผู้ผ่านการเดินทางมามากว่าใครเพื่อน...พูดคุยอวดสรรพคุณเสร็จก็แยกกันไปถูกรีดพิษที่บ้านใครบ้านมัน...

0000vอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2551 นครพนม - กรุงเทพฯ - นาริตะ

000016.00 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินนครพนม เพื่อตรวจเช็คสัมภาระ และความพร้อมก่อนออกเดินทาง ก่อนเวลานัดหมายหลายคนตื่นเต้น...กระดี้กระด้าเหมือนปลาได้ฝน...เพราะการเดินทางครั้งนี้ไม่มีผู้ติดตามคอยกำกับ...สจ.กอ ...สจ.สงวน...สจ.สฤษดิ์... สจ.กูด...เลขาเกษม...นัดกันมารวมตัวที่บ้านเราต้มปลาหลาด(ปลากระทิง)...ทอดปลาโทดธง แดดเดียว รองท้องก่อนเดินทาง เจ้าหน้ที่ อบจ.คอยต้อนรับอยู่ก่อนแล้วที่สนามบินโดยหัวหน้ามีชัย จงประเสริฐ รก.ผู้อำนวยการกองกิจการสภาผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ ส.อบจ.พาน้องๆในกองไปตั้งโต๊ะคอยรับและส่งคณะด้วยน้ำชา กาแฟ...ของว่างขบเคี้ยว...ถ่ายรูปหมู่รำลากันเหมือนสมัยที่เพื่อนเราจะขึ้นเครื่องไปทำงานซาอุ...แถมออดอ้อนขอของฝากจากญี่ปุ่นกับ ส.อบจ.ด้วยความสนิทสนม....

0000ประมาณ17.15 น.คณะขึ้นเครื่องเหิรฟ้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ..โดย PB.air.เที่ยวบินที่. 9Q 877อันเป็นเทียวบินบังคับหนึ่งเดียวของนครพนม - กรุงเทพ ฯที่ราคาข้าราชการซี 7 ไม่กล้านั่ง ดูทุกคนไม่ตื่นเต้นเพราะผ่านการเดินทางเมืองนอกมาแล้ว...จนเครื่องบินผ่านโคราชกัปตันประกาศว่าขณะนี้อากาศแปรปรวนให้ทุกคนรัดเข็มขัดและนั่งอยู่กับที่...เสียงที่คุยกันจึงเงียบเสียงลง...ที่เงียบคงมีคนภาวนาขออะไรอยู่ในใจหรือเปล่าก็ไม่รู้...แต่เราก็มีความรู้สึกนั้นเหมือนกันแต่ไม่บอกใคร...

0000หกโมงครึ่งเครื่องลงจอดที่สุวรรณภูมิ...รอเช็คอินอีกครั้งตอนสองทุ่ม...


วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2551

พี่น้องชาวนครพนมที่เคารพรัก

กราบเรียน พ่อแม่ พี่น้องชาวจังหวัดนครพนมที่เคารพรักทุกท่าน

@@@4 ปีที่ผ่านมา พวกเราลูกหลานของท่าน ได้ร่วมกันทุ่มเทกำลังสติปัญญา ความสามารถ เพื่อนำพา จังหวัดนครพนม ไปสู่ทิศทาง และเป้าหมาย ที่ต้องการโดยนำเอาปัญหาที่มาจากตัวแทนของท่านคือสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม(ส.อบจ.) ทั้ง 30 เขต หลอมรวมความคิดเป็นนโยบายแล้วเดินตามกรอบนั้นไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ,ด้านโครงสร้างพื้นฐาน, ด้านสังคม, ด้านการเมืองการบริหาร, ด้านสิ่งแวดล้อม, และทรัพยากรธรรมชาติ

@@@ต่อคำถามว่า ที่ทำมาพอใจหรือยัง ขอตอบว่า ยัง เพียงแต่พอใจในระดับหนึ่ง ยังมีปัญหาและโครงการที่ต้องสานต่อนโยบายเดิมอีกหลายเรื่องที่ทำแล้วยังค้างคาและต้องแก้ไขต่อไป

@@@พวกเราขอโอกาสอีกครั้ง ขอความเมตตาจากทุกท่านได้โปรดให้ความเมตตาให้พวกเรา ได้สานงานต่อ ก่องานใหม่ ให้ลุล่วงสมปรารถนาตามที่พี่น้องได้ไว้วางใจมาแล้ว เราทำได้ ได้ทำมาแล้ว และจะขอทำต่อไป พวกเราลูกหลานของท่านกราบขอความเมตตาจากท่านอีกครั้งหนึ่ง


@@@@@@@@@@@@@ด้วยความเคารพรักยิ่ง จากใจจริง ครูไก่........อารมณ์ เวียงด้าน

เป้าหมาย คือ “ประชาชน”

เป้าหมายเดียวในการทำงานคือ “ประชาชน” เราทำได้ ได้ทำมาแล้ว และจะขอทำต่อไป ด้วยมุ่งมั่นและตั้งใจ คือ.....
@@1.มีอาชีพเสริมและรายได้เพียงพอในการดำรงชีวิต
@@@-ปลูกยางพาราโดยพลัน -ปาล์มน้ำมันเร่งอุดหนุน
@@@-เพิ่มงบเข้ากลุ่มกองทุน -สนับสนุนOTOP ให้โด่งดัง
@@@-กลุ่มพลังประชาชนมีงานทำ
@@2.ให้บริการด้านสาธารณูปโภคสาธารณูปการขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึง
@@@@@@@@@๑-สร้างถนนลาดยาง -ก่อสร้างคอนกรีตและลูกรัง -น้ำประปาเต็มถัง
@@@@@@@@@-๑แหล่งน้ำ...ห้วยหนอง...คลอง...ต้องปรับปรุง
@@@@@@@@@-๑เร่งบำรุงถนนหนทาง -สองข้างทางข้าวเต็มนา - แหล่งพันธุ์ปลาต้องฟื้นฟู
@@3.มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีคุณค่า
@@@-ฟื้นฟูศิลปะ...วัฒนธรรม...ประเพณี...วิถีชีวิตและภูมิปัญญาที่ดีงาม
@@@-ศาสนา...วัด...อาราม...ต้องร่วมคิด -ยาเสพติดต้องจัดการ
@@@-ศึกษาดูงาน...การท่องเที่ยว...ทำต่อไป
@@@-เร่งใส่ใจการศึกษา...โรงเรียนกีฬาต้องยิ่งใหญ่
@@@-ส่งเสริมสุขภาพคนทั่วไป -ที่ทิ้งขยะเร่งทำให้
@@@-กีฬาเด็ก ผู้ใหญ่...ต้องยั่งยืนและโด่งดัง

วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ความสำเร็จองค์กร ความสำนึก

กราบเรียน ผู้มีอุปการคุณทุกท่าน
...........เป็นวาระที่ 2 ที่คณะพวกเราเข้ามาบริหาร – จัดการ อบจ.นครพนม อันเป็น องค์กรสาธารณะขนาดใหญ่ของจังหวัด เข้ามาด้วยฉันทานุมัติของประชาชน ผู้รอความหวัง ด้วยศรัทธาต่อคณะเรา,ด้วยจิตคาราวะขอน้อมรับต่อศรัทธานั้น และขอตั้งตนภายใต้กรอบของอำนาจหน้าที่ ตามภาระหน้าที่พี่น้องมอบหมาย โปรดให้ความเมตตาและชี้แนะชี้นำพวกเราต่อไปด้วยครับ
ด้วยจิตคารวะ ด้วยจิตคารวะ ด้วยจิตด้วยจิตคารวะ ...........“ ครูไก่ อารมณ์ ”





ด้วยจิตคาในโอกาสที่พบกันครั้งแรกของวารสาร อบจ.นครพนม เพื่อเป็นสื่อให้พี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนได้รู้จักตัวตนของ อบจ.ที่แท้จริง และใกล้ชิดยิ่งขึ้นขออนุญาตนำเสนอสาระเบาๆ สำหรับการสู้ชีวิตด้วยตนเอง “ มองแต่แง่ดีของงาน สร้างความสำราญให้ชีวิต ” กว่าครึ่งหนึ่งของชีวิตคนเราคือการทำงาน ดังนั้นหากไม่มีความสุขกับการทำงาน ก็เท่ากับว่าเราสูญเสียชีวิตที่มีความสุขไปถึงครึ่งหนึ่ง เพื่อชีวิตที่มีแต่ความสุข คนเราจะต้องมีสุขภาพจิตและวิธีคิดที่ดีต่อตัวเอง ซึ่งแนวทางการสร้างสุขภาพจิตและวิธีที่ดีต่อตนเอง เพื่อความก้าวหน้าและความสุขในการทำงานแต่ละวันนั้นนักจิตวิทยาได้สรุปไว้ให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้




@@@1. มองงานที่ทำอยู่ในแง่ดีเสมอ ไม่ว่างานจะหนักจะเบาอย่างไร พยายามหาส่วนดีของงานนั้นๆ มาชดเชยกับส่วนที่ไม่ดี
@@@2. ยอมรับความสามารถของตนเอง ไม่คิดน้อยเนื้อต่ำใจในความสามารถของตน
@@@3. ไม่คิดเอาเปรียบเพื่อร่วมงาน ใจกว้าง ช่วยเหลือตามกำลังของตนเท่าที่จะกระทำได้ด้วยความจริงใจ
@@@
4. พอใจในผลตอบแทนที่ได้รับ โดยไม่เปรียบเทียบกับผู้อื่น
@@@5. รับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็ม โดยไม่เกี่ยงงอน
@@@6. ตั้งใจทำงานในวันเวลาปัจจุบันอย่างเต็มที่
@@@
7. ยอมรับสภาพ และปรับตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ขององค์กรเสมอ ความสุขในการทำงานจะเกิดขึ้นได้โดยง่าย เมื่อพยายามสร้างสุขภาพจิตที่ดีมองแต่สิ่งที่ดีของงานและตนเอง ประพฤติตนไม่ดี ชีวิตไม่ก้าวหน้า




@@@สิ่งที่ขัดขวางความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มักเกิดจากความประพฤติของเราเอง ความประพฤติไม่ดีที่ทำให้ไม่ก้าวหน้าในการทำงาน มีดังนี้
@@@1. ลาป่วยและลากิจบ่อยจนเกินไป ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง ไม่สนใจในงานที่ได้รับมอบหมาย
@@@2. มาสายแค่กลับก่อน ทานข้าวก่อนเวลา กลับเข้าทำงานช้ากว่าเวลาที่กำหนด
@@@3. ไม่สนใจงาน ชอบแอบหลับ หรือทำงานส่วนตัวในระหว่างเวลางาน
@@@4. พูดคุยโทรศัพท์เรื่องส่วนตัวบ่อยครั้ง และใช้เวลานาน
@@@5. นำปัญหาครอบครัว หรือปัญหาส่วนตัวมายังที่ทำงาน สร้างความรำคาญใจให้เพื่อนร่วมงานเสมอๆ
@@@6. ทำธุรกิจส่วนตัวในที่ทำงาน นำสินค้ามาขายเพื่อหากำไรส่วนตัว
@@@7. เล่นการพนัน หรือชอบหยิบยืมเงินทองของเพื่อร่วมงาน
@@@8. เข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ยาก เห็นแก่ตัว แบ่งเป้นกลุ่ม ชอบเล่นการเมืองในสำนักงาน หรือแบ่งพรรคแบ่งพวก
@@@9. เจ้าชู้ คิดแต่เรื่องในทางชู้สาว


...........อย่าลืมว่า ความก้าวหน้าในอาชีพการงานขึ้นอยู่กับความประพฤติของเราอย่างแท้จริงเมื่อมีความประพฤติที่ดี ย่อมมีโอกาสก้าวหน้าเสมอ